วันอังคารที่ 11 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2557

สั้นง่ายได้ใจความ สไตล์ Info Graphic

ความรู้ในโลกใบนี้มีมากมายหลายเรื่อง บางเรื่องก็ง่ายต่อการจดจำและทำความเข้าใจแต่บางเรื่องนี่สิ ต้องใช้เวลาและความพยายามเป็นอย่างมากกว่าจะรับรู้และเข้าใจ ดังนั้นวันนี้ผู้เขียนเสนอรูปแบบหนึ่งของการเผยแพร่ความรู้นั้นก็คือ “Info Graphic(อินโฟกราฟฟิค)”  หลายคนรู้จักกันดีว่ามีหน้าตาเป็นอย่างไรแต่สำหรับบทความนี้ผู้เขียนจะขออธิบายสั้นๆเกี่ยวกับเจ้าอินโฟกราฟฟิคนั้นก็คือข้อมูลที่ผู้จัดทำต้องการจะเผยแพร่โดยจัดทำขึ้นในรูปแบบของการใช้กราฟฟิคซึ่งอาจจะเป็นรูปภาพหรือข้อความ โดยหน้าตาของอินโฟกราฟฟิคจะช่วยดึงดูดความสนใจผู้รับสารและช่วยในการจดจำข้อมูลนั้นๆ ถ้าผู้อ่านยังสงสัยและอยากจะรู้ว่าหน้าตาของอินโฟกราฟฟิคเป็นอย่างไร บทความนี้จะทำให้ผู้อ่านเข้าใจมากขึ้นโดยผู้เขียนจะยกตัวอย่างอินโฟกราฟฟิคที่ผู้เขียนทำขึ้นเองมาให้ดูกัน 

เลือกเนื้อหาและตั้งชื่อเรื่อง
จากตัวอย่างจะมีชื่อว่า “5 ข้อหาจราจรยอดนิยม ซึ่งผู้เขียนได้นำเสนอเรื่องของข้อหาจราจรที่ติดอันดับ1-5ที่มีผู้กระทำความผิดมากที่สุดโดยจะแสดงให้เห็นทั้งข้อหาและเงินค่าปรับ ดังนั้นการเลือกเนื้อหาควรเลือกจากสิ่งที่ผู้จัดทำสนใจและคากว่าจะก่อให้เกิดประโยชน์ต่อส่วนรวมดังเช่นเรื่องนี้คือรณรงค์ให้ผู้ขับขี่ยานพาหนะตระหนักถึงการเคารพกฎจราจรนำมาสู่การใช้รถใช้ถนนอย่างปลอดภัย อีกอย่างข้อมูลที่นำมาทำต้องมาจากแหล่งที่มีความน่าเชื่อถือและตรวจสอบดูแล้วว่ามีความถูกต้อง การตั้งชื่อเรื่องควรตั้งให้มีความน่าสนใจและรับรู้ได้ทันทีว่าเป็นเรื่องเกี่ยวกับอะไร เมื่อเราทราบแล้วว่าควรเลือกเนื้อหาและตั้งชื่อเรื่องอย่างไรดีเรามาดูวิธีการทำกันคร่าวๆดีกว่า

ขั้นตอนวิธีการทำ
การทำอินโฟกราฟฟิคของแต่ละคนอาจจะใช้วิธีการแตกต่างกันออกไป สำหรับตัวผู้เขียนเองจะใช้คอมพิวเตอร์ในการทำโดยใช้โปรแกรม “Adobe Illustrator” โดยสิ่งแรกที่ต้องคำนึงคือเราจะเอาขอบเขตของข้อมูลแค่ไหนดีซึ่งควรจะสั้นเข้าใจง่ายและได้ใจความ จากนั้นมาคิดจัดวางองค์ประกอบว่าหน้าตาจะเป็นอย่างไรหาจุดเด่นและความสอดคล้องกันของเนื้อหาควรจะมีภาพประกอบอะไรบ้าง จากตัวอย่างจะเห็นว่าผู้เขียนได้ให้รูปตำรวจเป็นจุดเด่นและเรียงลำดับข้อหาจราจรตามเลข5ตัวใหญ่ โดยแต่ละข้อหาจะมีรูปภาพประกอบเพื่อความน่าสนใจและเข้าใจได้ง่ายขึ้น

ข้อเสนอแนะ
อย่างที่ผู้เขียนได้บอกไปว่าการทำอินโฟกราฟฟิคที่ดีนั้นต้องคำนึงถึงประโยชน์ที่ผู้รับสารจะได้รับจากสิ่งที่เราทำ อาจเป็นเรื่องเล็กๆหรือเกร็ดความรู้ที่จะทำให้เขาเข้าใจได้ง่ายขึ้น ข้อมูลจะต้องถูกต้องมีความสร้างสรรค์เป็นที่ยอมรับของสังคม  สุดท้ายผู้เขียนหวังว่าเมื่อผู้อ่านได้อ่านบทความนี้แล้วจะเป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยสร้างแรงบันดาลใจในการเผยแพร่ความรู้ให้ผู้อื่นด้วยวิธีนี้ ถ้าอยากดูตัวอย่างเพิ่มเติมว่าอินโฟกราฟฟิคเขาทำกันอย่างไรบ้างแล้วล่ะก็ ผู้เขียนมีเว็บไซด์ดีๆเกี่ยวกับเรื่องนี้มาฝากนั้นคือ www.facebook.com/infographic.thailand

สำหรับบทความนี้ผู้เขียนต้องขอขอบคุณ พี่สุรเชษฐ์ มีฤทธิ์ ผช.ผอ.ฝ่ายปฎิบัติการ สำนักสื่อและเทคโนโลยีการศึกษา มศว ที่เป็นให้ความรู้เรื่องนี้จากไม่มีความรู้อะไรเลยจนผู้เขียนสามารถทำออกมาได้อย่างสมบูรณ์ตามที่ได้เห็น บทความหน้าจะเป็นเรื่องราวอะไรนั้นโปรดติดตามกันต่อไปนะครับ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น